วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

ข่าวสารประจำสัปดาห์ที่ 8

เหยื่อด.ช.9ขวบจะไปโรงเรียนล่ามือปืนถ่อยเทคโนบางกะปิอีกรายถล่ม2แถวด.ญ.ม.1เจ็บ

เด็กนักเรียนวัย 9 ขวบ ถูกกระสุนเทคโน บางกะปิยกพวกถล่มอริต่างสถาบันบนรถเมล์ ตายสยอง สุดสลดเหยื่อขึ้นรถไปโรงเรียน ตอนเช้าพร้อมพี่ชายวัย 11 ขวบกำลังรอรถจอดป้ายเตรียมลง จู่ๆกลุ่มนักเรียนถ่อยถืออาวุธกว่า 20 คน กรูจะขึ้นไปทำร้ายช่างอุตสากรรม กรุงเทพ โชเฟอร์ต้องเร่งเครื่องหนี เลยสาดกระสุนใส่โดนนักเรียน ป.3 ตาย แม่ร่ำไห้ดูศพไม่คิดจะเกิดเหตุเช่นนี้อีกรายดุเดือดที่ปากน้ำถึงขั้นปาระเบิดใส่รถสองแถวแล้ว ยิงซ้ำ นักเรียนหญิง ม.1 ถูกลูกหลงเจ็บด้วย ด้านกระทรวงศึกษาธิการทำได้แค่ขู่เอาจริงเอาจังล้อมคอกเช่นเดิม

นักเรียนเทคโนโลยีบางกะปิชักปืนยิงใส่อริต่างสถาบันบนรถเมล์กระสุนลูกหลงไปโดนเด็กเรียน ป.3 ตายสยอง เกิดขึ้นเมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 ก.ย. พ.ต.ท. ประดิษฐ์ ทะประสิทธิ์จิตต์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน. มีนบุรี รับแจ้งเหตุนักเรียนช่างกลทะเลาะวิวาทกัน แล้วชักปืนยิงใส่รถประจำทาง ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ บริเวณซอยรามคำแหง 166 แขวงและเขตมีนบุรี กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมอาสาสมัครกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

พบรถประจำทางร่วมบริการสาย 113 สีฟ้าขาว วิ่งระหว่างมีนบุรีถึงหัวลำโพง ทะเบียน 10-2688 กรุงเทพมหานคร หมายเลขข้างรถ 113-25 มีรอยกระสุนปืนลูกซองเข้ากระจกหลังรถเป็นรูโหว่ 2 รู ส่วนตรงประตูหลังพบคราบเลือดเต็มพื้น ขณะที่ผู้บาดเจ็บพลเมืองดีช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลเกษมราษฎร์ สุขาภิบาล 3 และเสียชีวิตแล้ว ทราบชื่อ ด.ช.จตุพร หรือน้องเทียน ผลผกา วัย 9 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3/2 โรงเรียนวัดบำเพ็ญเหนือ มีบาด แผลถูกกระสุนปืนลูกซองเข้าใบหน้า ลำคอ และไหล่ซ้าย

สอบสวน น.ส.นิตยา บูรายาว อายุ 31 ปี พนักงานเก็บค่าโดยสารได้ความว่า รถประจำทางวิ่งออกจากตลาดมีนบุรี โดยมีผู้โดยสารเต็มคันรถ ส่วน ด.ช.จตุพร หรือน้องเทียน ผลผกา ขึ้นรถมาพร้อม ด.ช.ปฐมพร หรือน้องคงผลผกา พี่ชายวัย 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.3 โรงเรียนเดียวกันที่ป้ายรถประจำทางตรงข้ามห้างบิ๊กซี รามคำแหง เมื่อถึงปากซอยรามคำแหง 164 เด็กทั้งคู่ขยับไปยืนใกล้ประตูหลัง เพื่อกดกริ่งเตรียมลงต่อรถไปโรงเรียนอีกทอด โดยมีนักเรียนช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพราว 7-8 คนยืนจับ กลุ่มอยู่ด้วย

กระทั่งรถจอดป้ายและเปิดประตูอัตโนมัติเหตุการณ์ ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อมีนักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยี บางกะปิกว่า 20 คน ถือไม้และแก้ววิ่งกรูออกมาจากซอยปรี่เข้าหานักเรียนช่างอุตสาหกรรมคู่อริต่างสถาบันที่อยู่ บนรถผู้โดยสารจึงตะโกนให้โชเฟอร์รถเมล์รีบเคลื่อนรถออกไปก่อน กลุ่มนักเรียนเทคโนโลยีบางกะปิไม่พอใจชักปืนลูกซองสั้นลั่นกระสุนสาดเข้าไปในรถถูกเด็กนักเรียน ชั้นประถมที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ร่วงลงไปกองกับพื้นรถต่อหน้าพี่ชายและผู้โดยสารทั้งคัน ส่วนบรรดานักเรียนนักเลงที่ก่อเหตุอาศัยช่วงชุลมุนแยกย้ายกันหลบหนีไป

ด้านนางอังศุ ขำวงศ์ อายุ 39 ปี มารดาของเด็กเหยื่อนักเรียนเทคโน ทำงานเป็นนายท่าปล่อยรถประจำทางสาย 113 ทราบข่าวรีบไปดูศพลูกชายที่โรงพักถึงกับปล่อยโฮร้องไห้คร่ำครวญ มีลูกชายอีกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนน้ำตาซึมข้างกาย นางอังศุเผยว่า ลูกชายทั้งคู่จะไปขึ้นรถประจำทางสายดังกล่าวไปโรงเรียนเป็นประจำทุกเช้า รู้จักกับโชเฟอร์และกระเป๋ารถเมล์เป็นอย่างดี ที่ผ่านมาก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่คิดเหมือนกันว่า ลูกชายต้องมาประสบชะตากรรมโดนลูกหลงจากความขัดแย้งของนักเรียนต่างสถาบัน

ส่วน ด.ช.ปฐมพร หรือคง ผลผกา พี่ชายน้องเทียนกล่าวว่า ก่อนหน้านี้แม่จะมาส่งตนกับน้องไปโรงเรียนเป็นประจำ แต่ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาปล่อยให้พาน้องขึ้นรถไปกันเองตอนประมาณ 6 โมง กระทั่งเกิดเหตุ ตอนนั้นชวนน้องเตรียมตัวลงรถที่ประตูหลัง ซึ่งน้องจะยืนอยู่หลังตนตลอด พอประตูเปิด ได้มีวัยรุ่นวิ่งสวนขึ้นมา ก่อนจะมีกลุ่มนักเรียนช่างกลวิ่งตามมาจนเกิดชุลมุนและมีเสียงปืนดังขึ้น หันมาอีกทีเห็นน้องชายถูกยิงล้มฟุบลงไปแล้ว

พ.ต.อ.สมบูรณ์ พุทธพงษ์ รอง ผบก.น.3 เปิดเผยว่า สั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนหาข่าวและเบาะแสคนร้ายเพื่อติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เบื้อง ต้นทราบว่า นักเรียนที่ก่อเหตุเป็นนักเรียนจากเทคโนโลยีบางกะปิ ทะเลาะวิวาทกับวิทยาลัยช่างอุตสาหกรรมกรุงเทพ สำหรับมาตรการการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น จะระดมความคิดจากทุกฝ่ายหาวิธีป้องกันปราบปรามไม่ให้ซ้ำรอยอีกต่อไป ทั้งนี้ อยากให้มีการแก้ไขกฎหมายในเรื่องการทะเลาะวิวาทของนักเรียนเพื่อลดปัญหาดังกล่าว

อีกรายเกิดขึ้นเมื่อเช้าวันเดียวกัน ร.ต.อ.สัญญา อุทุมพร พงส. (สบ 1) สภ.เมืองสมุทรปราการ รับแจ้งเหตุนักเรียนยกพวกตะลุมบอนได้รับบาดเจ็บหลายราย ที่ปากซอยโรงเรียนชำนิเทคโนโลยี ถนนพุทธรักษา ต.แพรกษา จึงไปตรวจสอบ พบรถสองแถวอีซูซุ สีส้ม ทะเบียน 10-6064 สมุทรปราการ สายปากน้ำ-แพรกษา-คลองเก้า บนเบาะนั่งผู้โดยสารพบคราบเลือดกระจายเต็มไปหมด หลังจากมีผู้บาดเจ็บถูกกระสุนและสะเก็ดระเบิด 4 ราย ทราบชื่อนายสหรัฐ ชื่นชมบุญ อายุ 16 ปี นายวุฒิชัย แสงทับ อายุ 16 ปี นายปฏิภพ บุตรีคุณ อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ปวช.วิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการ ถูกสะเก็ดระเบิดปิงปองเป็นแผลฉีกขาดตามร่างกายหลายแห่ง ขณะที่ ด.ญ.สุทธิตา ลือชา อายุ 12 ปี นักเรียนชั้น ม.1/4 โรงเรียนนพคุณวิทยา ถูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดที่หัวไหล่ขวาทะลุหลัง พลเมืองดีนำคนเจ็บแยกส่ง รพ.สมุทรปราการ และ รพ.เมืองสมุทรปากน้ำ

นายบุญธรรม บัวบาน อายุ 40 ปี โชเฟอร์รถสองแถว เล่าเหตุการณ์ว่า ขับรถรับผู้โดยสารมีชาวบ้านและนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการจำนวนหนึ่ง พอถึงทางเข้าโรงเรียนชำนิเทคโนโลยี มีนักเรียนอาชีวะกลุ่มหนึ่งข้ามถนน เกิดปากเสียงกับนักเรียนเทคนิคในรถ ก่อนมีเสียงระเบิดดังขึ้น 1 ครั้ง ตามด้วยเสียงปืนอีก 1 นัด มีคนเจ็บร้องครวญคราง จึงตัดสินใจจอดข้างทางแล้วแจ้งตำรวจ

ต่อมา พ.ต.อ.สังวาลย์ ฤกษ์ศรีลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ นำกำลังสายตรวจติดตามจับกุมนักเรียนต้องสงสัยได้ 29 คน พร้อมของกลางมีด 33 เล่ม ที่ถูกทิ้งขว้างอยู่ข้างถนนใกล้จุดเกิดเหตุ คุมตัวไป สภ.เมืองสมุทรปราการ เบื้องต้นยอมรับเป็นเจ้าของมีดเพียง 12 คน จึงแจ้งข้อหาพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะ ส่วนที่เหลือทำบันทึกประวัติแล้วปล่อยตัวไป แต่ไม่พบเกี่ยวข้องกับกลุ่มที่ปาระเบิดใส่รถสองแถว

น.ส.นริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า รู้สึกสลดใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของสำนักบริหารงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ต้องพิจารณาดำเนินการลงโทษสถานศึกษาเอกชนที่ก่อเหตุ ตามมาตรการที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศไปแล้ว มีตั้งแต่การตักเตือนไปถึงขั้นสั่งปิดโรงเรียน เพราะหากยังปล่อยให้เกิดเหตุความรุนแรงขึ้นซ้ำซากก็คงต้องลงโทษอย่างจริงจัง นอกจากนี้ น.ส.นริศราระบุด้วยว่า เช้าวันเดียวกัน ยังมีนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสมุทรปราการถูกนักเรียนโรงเรียนชำนิเทคโนโลยีปาระเบิดใส่ มีการยิงปืนขึ้นไปบนรถสองแถว มีนักศึกษาบาดเจ็บ 3 คน ได้ให้

เลขาธิการ กอศ.ทำหนังสือแจ้งเวียนไปยังสถานศึกษาในสังกัด ให้เข้มงวดกับระบบดูแลนักเรียนแล้ว หากปล่อยปละละเลยต้องพิจารณาการบริหารงานของผู้บริหารด้วย

ที่มา......http://www.thairath.co.th/today/view/107972

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น